วิธีการทำรองเท้าหนังแบรนด์ดัง ตอนที่ 1

April 17, 2017 3 Comments

แต่ไหนแต่ไร ถ้าจะเลือกรองเท้าที่เน้นเรื่องของความแข็งแรงทนทานแล้วล่ะก็ แน่นอนว่าทุกคนต้องคิดถึงรองเท้าหนังเป็นอันดับแรกๆ นอกจากความทนทานแล้ว ยังทำความสะอาดง่ายเวลาสกปรกอีกด้วย แต่ส่วนมากรองเท้าหนังสัตว์แท้มักจะเป็นงาน Handmade ทำให้รองเท้ามีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า หากคิดจะหามาใช้กันสักคู่หนึ่งนะฮะ

ประวัติความเป็นมาของหนังสัตว์ ถ้าจะพูดกันนี่คงต้องย้อนไปหลายพันปีเลยทีเดียว เพราะแค่รองเท้าหนังที่เก่าแก่ที่สุดถูกค้นพบในประวัติศาสตร์ ก็มีอายุประมาณ 5,500 ปีแล้วฮะ บรรพบุรุษของเราเป็นผู้คิดค้นวิธีถนอมหนังสัตว์ให้อยู่ได้นานๆ และวิธีนั้นก็ยังคงใช้กันมาจนถึงทุกวันนี้

หนังสัตว์ที่ใช้กันในปัจจุบันนั้นมีเกือบทุกสายพันธุ์เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นหนังอะไรก็แล้วแต่ จะมีโครงสร้างพื้นฐานอยู่ 3 ชั้น โดยชั้นที่เอามาทำวัสดุหนังคือชั้นกลางที่ด้านนอกมีลักษณะเหนียวและหนังด้านในจะนิ่มกว่า ปกติหนังแท้เวลาโดนความร้อนจะแห้ง แต่ถ้าโดนความชื้นจะเน่าและขาดง่าย ในสมัยยุคหินเริ่มมีการนำหนังสัตว์มาใช้ แต่วิธีการถนอมหนังสมัยนั้นยังไม่ค่อยดีเท่าไร วิธีที่ได้ผลดีเพิ่งถูกคิดค้นเมื่อไม่กี่พันปีก่อนหน้านี้เองฮะ ก็คือ กระบวนการฟอกหนัง (Tanning process) นั่นเอง

ก่อนจะผ่านการฟอก ขั้นแรกต้องเอาหนังไปแช่น้ำต่อด้วยน้ำมะนาว เพื่อคืนความชุ่มชื้นและกำจัดคราบสกปรกกับไขมันที่ติดมากับหนังออกไป กำจัดขนด้วยการแช่ในแคลเซียมกับกำมะถัน ถัดมาก็แยกหนังชั้นกลางออกมา ทิ้งชั้นนอกกับชั้นในไป สมัยก่อนใช้มีดในการขูดหนังออก แต่ปัจจุบันนี้ใช้เครื่องจักรเข้ามาช่วย สุดท้ายก็นำหนังไปแช่ในสารที่มีคุณสมบัติในการทำให้หนังเปื่อยและดูดสารฟอกหนังเข้าไปได้มากขึ้น เดิมทีใช้ มูลสัตว์ ในการทำให้หนังเปื่อย โรงฟอกหนังเลยมักจะสร้างในพื้นที่ห่างไกลชุมชน เพราะคงไม่มีใครอยากอยู่ใกล้บริเวณที่มีกลิ่นเหม็นตลอดเวลาหรอกฮะ

กระบวนการฟอกหนังเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในชั้นหนังให้มีความคงทนไม่เน่าเสีย หนังที่ฟอกแล้วหากโดนความชื้นก็จะกลับมาแห้งเหมือนเดิม ในปัจจุบันวิธีฟอกหนังที่นิยม คือ การฟอกฝาด (Vegetable tanning) และการฟอกโครม (Chrome tanning)

หนังฟอกฝาด (Vegetable tanned leather) เป็นวิธีที่ใช้มาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ โดยใช้สารแทนนินสกัดจากเปลือกไม้ในการฟอก ซึ่งการแช่สารนี้ต้องใช้เวลาถึง 6 เดือน จึงเป็นเหตุผลหลักว่าทำไมหนังถึงแพงนัก หนังที่ผ่านการฟอกฝาดนิยมคงสีเดิมของหนังไว้ ไม่ฟอกสีเพิ่มเติม ทำให้ได้หนังที่มีสีครีมอ่อนๆ อาจจะออกขาวอมชมพู ซึ่งเมื่อใช้ไปสักพักสีหนังจะค่อยๆเข้มขึ้นและนิ่มลงเรื่อยๆ แบรนด์รองเท้าที่ใช้หนังชนิดนี้ก็คือ Hender Scheme นั่นเอง

หนังฟอกโครม (Chrome tanned leather) ปัจจุบันใช้สารจำพวกเกลือสำหรับฟอก คิดค้นในปี ค.ศ. 1858 โดยนักเคมีชาวเยอรมันชื่อ Friedrich Knapp ซึ่งวิธีนี้ทำให้สามารถผลิตหนังได้มากเพียงพอต่อความต้องการของโรงงาน ภายหลังการฟอก หนังจะมีสีออกฟ้าๆ จึงต้องผ่านขั้นตอนอีกเล็กน้อยก่อนจะได้หนังที่สมบูรณ์พร้อมนำไปใช้ รองเท้าหนังส่วนมากจะทำจากหนังชนิดนี้เป็นหลัก เพราะให้เนื้อสัมผัสที่นุ่มกว่า ยืดหยุ่นดี ย้อมติดสีง่าย และใช้เวลาในการทำน้อยกว่า แค่ 6 สัปดาห์เท่านั้น

ทุกวันนี้หนังสัตว์ที่ผลิตออกมาเหมือนจะเป็นผลพลอยได้จากโรงงานเนื้อซะมากกว่า และครึ่งหนึ่งของหนังพวกนี้ถูกนำไปใช้ในการผลิตรองเท้า เดิมรองเท้าผ้าใบนั้นทำด้วยผ้าใบและพื้นยาง แต่ในช่วงศตวรรษที่ 20 นักกีฬาเริ่มหันมาใช้รองเท้าที่ทำจากหนังแทน ซึ่งรองเท้ากรีฑาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในขณะนั้นคือ รองเท้าที่ Jesse Ownens ใช้แข่งในปี ค.ศ.1936 โดยฝีมือของ Adi Dassler (ผู้ก่อตั้ง ADIDAS) นั่นเอง

แม้ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมาจะมีการคิดค้นวัสดุสังเคราะห์ใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมรองเท้ามากมาย แต่ถ้าจะเน้นความคลาสสิก ความหรูหรา ก็คงต้องเป็นรองเท้าหนังเท่านั้นนะฮะ ไม่ว่าจะเป็น Nike Air Jordan, New Balance รุ่น Made in USA และอื่นๆ อีกเยอะแยะเลยฮะ

ตอนนี้เราได้รู้เกี่ยวกับขั้นตอนการได้มาซึ่งวัสดุหนังที่เราใช้ๆ กันทุกวันนี้แล้วนะฮะ เดี๋ยวครั้งหน้าแอดมินจะมาเจาะรายละเอียดความแตกต่างของหนังแต่ละชนิดกันฮะ

อ่านตอนที่ 2 ได้ที่ - www.wilkinswalk.com/blogs/blogger/2

อัพเดทข่าวสารวงการรองเท้าล่าสุดได้ที่ - www.wilkinswalk.com/blogs/blogger

3 Responses

Leave a comment

ชื่อ *

Email *

ความคิดเห็น *

---

Also in Blogger